วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Part 2: First time being backpacker



 Day 2: 2014 November 22nd  (Stay: Moritomizu, Nagano)


Morning  : Exploring Obuse



 Nagano st. --------( Nagano Electric Railway)--------- Obuse st. (~30 mins, 200 Baht) 


ตื่นแต่เช้าออกเดินทางไปเมือง Obuse กันค่ะ เป็นเมืองที่พี่ๆที่ Hostel แนะนำมาค่ะ ซึ่งนี่แหนะ 
ข้อดีอย่างนึงของการพักแบบ Hostel คือได้บรรยากาศแบบเป็นมิตร รู้สึกเหมือนครอบครัวแบบไปอยู่ Home stay ยังไงอย่างงั้นเลย นอกจากนั้น ยังได้รู้จักคนอื่นๆที่มาพักอีก กลายเป็นได้เพื่อนเพิ่มเฉยเลย เพราะทุกคนที่มาพักมีอย่างหนึ่งร่วมกันคือการท่องเที่ยวแบบ Bagpacker  
ทำให้สามารถแชร์ประสบการณ์กันได้ แน่นอนว่าอะไรแบบนี้ หาไม่ได้จากโรงแรมแน่นอน



Afternoon : Ganshoin Temple
            เดินไปเดินมา ถ่ายรูปเมืองบ้าง ชมพูเขา อากาศบ้าง สุดท้ายก็ถึงวัดชื่อดัง คือ Ganshoin Temple ซึ่งจุดเด่นของวัดคือรูปวาด Phoenix บนเพดานที่วาดขึ้นโดย Hokusai ศิลปินชื่อดังของญี่ปุ่น ถึงขนาดมีพิพิธพันธ์ เก็บผลงานของเขาไว้ที่เมืองนี้ด้วย เค้าไม่ให้ถ่ายรูป แต่ขออนุญาตเอารูปจาก Google มาให้ดูนะค่ะ


Evening: Hokusai Museum
                ไหนๆ ก็มาเมืองนี้แล้ว ก็ต้องเข้าชมพิพิธพันธ์หน่อยค่ะ โดยรวมก็คือ รวบรวมผลงานของศิลปินท่านนี้ และประวัติต่างที่เกี่ยวกับทั้งผลงาน และตัวศิลปินเอง น่าสนใจดีค่ะ ใครที่ชื่นชอบงานศิลปะ แนะนำนำนะคะ


Night: Earthquake
                เหตุการณ์ระทึงไม่ได้คาดฝัน คือนอนเล่นที่ Hostel อยู่ดีๆ บ้านสั่น สั่งแรงมาก ขวดน้ำตก สัญญาณเตือนภัยก็ดังลั่น น่าตกใจมาก คือตั้งแต่มาอยู่ญี่ปุ่น ก็เจอแผ่นดินไหวหลายครั้ง แต่ครั้งนี้แรงสุด แต่โชคดีทุกคนปลอดภัยค่ะ หลังแผ่นดินไหวสงบไม่นาน ข่าวแผ่นดินไหวขึ้นเต็มsocial media เลยค่ะ เร็วมาก CNN BBC เต็มไปหมด อ่านแล้วตกใจ magnitude 6.8 มีบ้านถล่มด้วย เหตุเนื่องจากหินก้อนใหญ่สไลด์ลงมาเลยทำให้เกินแรงสั่น ถ้าเข้าไม่ผิดนะคะ แหะๆ















 

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Part 1: First time being backpacker



November, 2014

"เห้ย ไม่ได้แล้วหวะ วันหยุดทั้งทีจะมานอนดูซี่รี่ย์อยู่ได้ไง นี่มันญี่ปุ่นนะเว่ยยยยยย"

อยู่ ๆ ก็นึกได้ หลังจากนั่ง กิน นอน ดูแต่ซี่รี่ย์มา 3 วันเต็ม

- - - - - - - - - - - -

ในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยนคนนึง ที่ได้มีโอกาสมาเรียนที่ญี่ปุ่น 1 ปี เราเลยต้องเที่ยวให้มันคุ้มๆหน่อย
บอกกับตัวเองว่า 1 ปีนี้ เอาให้ทั่วญี่ปุ่นเลยนะ ตั้งแต่เหนือสุด ยันใต้สุดค่า จ้า! ตังค์อ่ะ? เอาหวะ ค่อยคิด

. . และครั้งนี้ก็เป็นปิดเทอมครั้งแรก หลังจากมาอยู่ได้ 2 เดือนกว่าแล้ว เย่ ก็เลยมีโอกาสได้เที่ยวสักที ที่สำคัญไม่เคยเที่ยวคนเดียวมาก่อน ส่วนเรื่องภาษาญี่ปุ่นนั้น เพิ่งมาเรียนเอาจากที่นี่ ก็คิดดูแล้วกันว่า 2 เดือน จากคนที่ไม่มีพื้นฐานอะไรเลย มันจะสื่อสารได้มากแต่ไหนกันเชียว ห้าห้าห้า แต่เอาวะ ความตั้งใจพร้อมซะอย่าง เราทำได้ทุกอย่างแหละอีกอย่างเรารู้สึกว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ค่อนข้างปลอดภัยเลยทีเดียว ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้ สบายเลยด้วย งั้นก็ . . ลุยค่ะ!

- - - - - - - - - - - -

Day 0: 2014 November 20th

หลังจากแอบจิ๊กเวลา(อันมหาศาล) จากการอ่านหนังสือสอบเอามาแพลนtrip ก็ได้แพลนออกมาดังนี้

Day 1: Leaving from Shinjuku to Nagano
          Snow monkey
  *Stay at Moritomizu, Nagano

Day 2: Obuse
  *Stay at Moritomizu, Nagano

Day 3: Karuizawa
  *Stay at Matsumoto backpackers, Matsumoto

Day 4: Takayama
  *Stay at Hida-Takayama Guest house Tomaru

Day 5: Shirakawa-go
  *Stay at Shin-Osaka Youth Hostel

Day 6: Universal Studio Japan
  *Stay at Shin-Osaka Youth Hostel


Day 7: Nara
  *Stay at Shin-Osaka Youth Hostel


Day 8: Osaka
  *Stay at Shin-Osaka Youth Hostel
 
Day 9: Osaka
  *Stay at Shin-Osaka Youth Hostel

Day 10: Leaving from Osaka to Shinjuku, Tokyo

Note: 1.Day 1 - Day 4: ไปเที่ยวกันทั้งหมด 3 คนนะคะ จากนั้นก็แยกย้ายกันค่ะ เราไปต่อ ส่วนเพื่อนกลับTokyo
         2. Plan เปลี่ยนจากที่เราแปลนไว้ก่อนจะรู้ว่าเพื่อนไปเที่ยวด้วย ซึ่งPlanเดิมคือไม่มี Obuse และ Karuizawa แต่จะเป็น Kurobe Gorge แทน คือนั่งรถไฟชมวิว ชมใบไม้เปลี่ยนสี (koyo) แนะนำว่าให้ไปเที่ยวช่วงที่นี่ช่วง Autumn นะคะ น่าจะสวยมากจากภาพที่เห็นนะคะ แต่ไม่ได้ไป แหะๆ

                                 source: yokoso-japan

- - - - - - - - - - - -
Day 1: 2014 November 21st

Morning: Shinjuku to Nagano by Willer express bus. https://willerexpress.com/en/
              (ประมาณ 4 ชม.)
              พวกเราเน้นประหยัดค่ะ เลยต้องนั่ง Bus ตามระเบียบ แต่ก็คุ้มกับราคาที่จ่ายนะคะ
              ราคา 2400 เยน (660 บาท) ตรงเวลาแป๊ะ! ส่วนที่นั่งนี่จัดว่าดีเลยค่ะ กว้าง มีที่วางเท้า
              มีร่มกันแสงตรงเบาะที่นั่งด้วย (ไม่รู้เค้าเรียนกันว่าอะไร ห้าห้า)
              ถ้าใครเคยนั่งรถทัวร์ของไทยมาแล้ว อันนี้จะเป็นที่พอใจเลยคะ อิอิ

Afternoon: Nagano station
              เนื่องจากเรามาถึงก่อนเวลา check-in เลยต้องออกเที่ยวเลยค่ะ ส่วนกระเป๋านั้นฝากไว้ที่ Hostel และมันดีตรงที่ Hostel ืี่จองไว้ใกล้กับสถานีมาก เดิน 10 นาทีถึงค่ะ พี่ๆที่ Hostel ก็ใจดีมากคะ แนะนำสถานที่เที่ยว และวิธีเดินทาง แถมยังมีแผนที่ให้อีกด้วย เลิศคะ

ไปดู Snow Monkey กันคะ
เดินทาง: เริ่มจากสถานี  Nagaden Nagano Station (อย่าสับสนกัน JR Nagano Station นะคะ มันคนละสถานีกัน แต่อยู่ติดกันค่ะ) นั่งรถไฟไปยัง  Yadanaka Station เพราะ Snow monkey อยู่ที่เมือง Yamanouchi




Source: Japan-guide

  ถึงสถานี Yodanaka ก็ต้องต่อรถ Bus ไปลงที่ป้าย Kanbayashi Onsen



 แล้วก็เดินต่อไปอีก 1.6 กม. เดินขึ้นเขาเพลินๆไป หรอ? ห้าห้า แต่ก็เพลินๆจริงนะ บรรยากาศดีมาก อากาศช่วงปลายAutumn ก็เริ่มหนาวและ เดินไป ชมต้นไม้ไป คุยกับเพื่อนไป แปปเดียวค่ะ

ชัดเลย . . ไม่ผิดแน่นอน

เมือง Onsen ก็คงไม่แปลกที่จะเจอ Onsen เต็มไปหมดเลย

ระหว่างทางค่ะ เดินไป ชิวเลย



และแล้ว เราก็เดินมาถึง  Jinokudani Monkey Park แท่น แทน แท๊น

ลิง ลิง ลิง เต็มไปหมดเบย แช่ออนเซ็นซะด้วย ไฮโซเลยค่ะ








เนื่องจากเราเดินขึ้นมาบนเขานะคะ บรรยากาศมันเลยดีแบบนี้


ตอนที่ไป อากาศหนาวเลยนะคะทั้งๆที่ยัง Autumn อยู่ ลิงมันก็คงจะหนาวเหมือนกัน เลยแช่ออนเซนซะเลย ขนมันดูสะอาดทุกตัวเลยค่ะ ตอนที่เราไป ถึงเวลาให้อาหารพอดี พอพี่เค้าโปรยเม็ดข้าวโพดเท่านั้นแหละ เจ้าลิงวิ่งกันวุ่นวายเลยคะ

Tips: มาเที่ยว Monkey Park ช่วงหน้าหนาวจะได้อารมณ์กว่านี้แน่ค่ะ ลิงก็ . . Snow monkey ของแท้เลยคะ
Source: snowjapan






 หลังจากเต็มอิ่มกับ Snow monkey เราก็เลยหาอะไรกินแถวนั้นซะเลย ซึ่งดูจะมีอยู่ร้านเดียวบริเวณทางเดินกลับไปยัง Bus stop อาหารไม่ค่อยหลากหลาย แต่รสชาติอร่อยเลยค่ะ โดยเฉพาะ sweet potato




 จากนั้น นั่ง Bus มาต่อที่สถานีเหมือนเดิมค่ะ

Evening: check-in เข้่าที่พักค่ะ . . . Moritomizu hostel

Source:http://www.morimizu.net/english/

Review hostel: สะอาด ปลอดภัย เดินทางสะดวก 10 นาทีจากสถานี Nagano ราคาถูก (2,300/คน/คืน) ห้องพักแบบ Dorm  ซึ่งถ้าเดินทางคนเดียวต้องนอนรวมกับคนอื่น ห้องพักแยก ชายหญิง
 แต่เรามากัน 3 คน เลยได้ห้องเดี่ยว 1 ห้องเลย ส่วนที่นอนเป็นแบบ Japanese Futon Bed คือปูผ้านวมนอนกับพื้น อุ่นสบายเลยคะ มี Heater ให้ด้วย ส่วนห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม มี 2 ห้องคะ ทางHostel เค้ามี Cleaning time นะคะ คือ ระหว่าง 10:30 am - 4.00 pm เราจะอยู่ในHostelไม่ได้ ต้องออกเที่ยวๆๆ อิอิ